๑. คุณค่าทางด้านวรรณศิลป์
สุภาษิตพระร่วง เป็นสุภาษิตที่มีความไพเราะ เพราะมีสัมผัสคล้องระหว่างวรรค ภายในวรรคมีการเล่นเสียงสัมผัสพยัญชนะ เสียง สัมผัสสระและการเล่นคำ
- ความไพเราะเกิดจากการสัมผัสระหว่างวรรคทุกวรรค เช่น
ปลูกไมตรีอย่ารู้ร้าง สร้างกุศลอย่ารู้โรย อย่าโดยคำคนพลอด เข็นเรือทอดกลางถนน
คำที่สัมผัสกัน ได้แก่ ร้าง - สร้าง, โรย - โดย, พลอด - ทอด
- ความไพเราะที่เกิดจากเสียงสัมผัสพยัญชนะภายในวรรค
เช่น เผ้าแผ่นภพสุโขทัย เข็นเรือทอดทางถนน ช้างไล่แล่นเลี่ยงหลบ
- ความไพเราะที่เกิดจากการเล่นซ้ำคำ เช่น
ปางมีชอบท่านช่วย ปางป่วยท่านชิงชัง
อย่ารักเหากว่าผม อย่ารักลมกว่าน้ำ อย่ารักถ้ำกว่าเรือน อย่ารักเดือนกว่าตะวัน
๒. คุณค่าด้านสังคม
เป็นวรรณกรรมเรื่องแรกของไทย ทำหน้าที่ปลูกฝังจริยธรรมให้แก่คนในสังคม สะท้อนให้เห็นสภาพของสังคมไทย (หลายชนชั้นอยู่รวมกัน - พระมหากษัตริย์ ขุนนาง ประชาชน) นอกจากนี้ยังมีการเคารพผู้อาวุโส ครูอาจารย์ สอนให้คนไม่ทำร้ายกัน ช่วยเหลือกัน อยู่ด้วยกันอย่างปกติสุข
ปลูกไมตรีอย่ารู้ร้าง สร้างกุศลอย่ารู้โรย อย่าโดยคำคนพลอด เข็นเรือทอดกลางถนน
คำที่สัมผัสกัน ได้แก่ ร้าง - สร้าง, โรย - โดย, พลอด - ทอด
- ความไพเราะที่เกิดจากเสียงสัมผัสพยัญชนะภายในวรรค
เช่น เผ้าแผ่นภพสุโขทัย เข็นเรือทอดทางถนน ช้างไล่แล่นเลี่ยงหลบ
- ความไพเราะที่เกิดจากการเล่นซ้ำคำ เช่น
ปางมีชอบท่านช่วย ปางป่วยท่านชิงชัง
อย่ารักเหากว่าผม อย่ารักลมกว่าน้ำ อย่ารักถ้ำกว่าเรือน อย่ารักเดือนกว่าตะวัน
๒. คุณค่าด้านสังคม
เป็นวรรณกรรมเรื่องแรกของไทย ทำหน้าที่ปลูกฝังจริยธรรมให้แก่คนในสังคม สะท้อนให้เห็นสภาพของสังคมไทย (หลายชนชั้นอยู่รวมกัน - พระมหากษัตริย์ ขุนนาง ประชาชน) นอกจากนี้ยังมีการเคารพผู้อาวุโส ครูอาจารย์ สอนให้คนไม่ทำร้ายกัน ช่วยเหลือกัน อยู่ด้วยกันอย่างปกติสุข